Fic tokyo ghoul re : ปรารถนาสุดท้าย
ผู้เข้าชมรวม
949
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ปรารถนาสุดท้าย
ยังจำได้ไหม วันที่เราสบตากันครั้งแรกในอันเทย์กุ
ฉันไปที่นั่นเพราะได้ยินเรื่องของเธอ
กูลที่ต้อนโดฟคนหนึ่งจนมุมได้ แล้วฉันก็ได้เจอเธอ
เธอดูต่างออกไปจากที่ฉันคิดอยู่มาก ก็แค่เด็กหนุ่มธรรมดา
ไม่มีอะไรสะดุดตาสักนิดนอกจากผ้าคาดตาอันนั้นกับดวงตาใสกระจ่าง
ดวงตาสีดำสุกใสของเธอมองมาที่ฉันอย่างชื่นชมในรูปลักษณ์ภายนอก
เธอคลี่ยิ้มบางอย่างคนขี้อายและเอ่ยคำต้อนรับแสนสุภาพ
รอบตัวมีแต่กลิ่นกาแฟหอมกรุ่น
แต่ลึกลงไปฉันได้กลิ่นที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใคร
กลิ่นเฉพาะของเธอ
กลิ่นของกูลที่ยังมีความเป็นมนุษย์...
ตอนนั้นเธอยังไม่รู้จักฉันเลย ไม่เลยแม้เศษเสี้ยวของฉัน
ก่อนที่ไม่นานหลังจากนั้นเราจะได้รู้จักตัวตนของกันและกัน
และเป็นตอนนั้นที่ฉันถูกความเย้ายวนของเธอล่อลวง
แล้วฉันก็เริ่มตีสนิทกับเธอ มีช่วงเวลาเล็กๆน้อยๆด้วยกัน
อย่างพูดคุยเรื่องหนังสือ ออกไปไหนด้วยกัน
แล้วฉันก็ค่อยๆถลำเข้าไปในวังวนของเธอทีละน้อย
สุขสมกับกลิ่นหอมหวนที่วนอยู่ติดจมูกยามเราอยู่ใกล้กัน
แค่ผ้าเช็ดหน้าสักผืนที่มีกลิ่นของเธอติดอยู่
มันก็สามารถกระตุ้นความหิวกระหายในตัวฉันได้แล้ว
เธอยั่วความกระหายอยากได้เหลือเชื่อ
ฉันอยากลิ้มรสเธอ
อยากรู้ว่าเนื้อที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวหนังขาวๆนั่นจะเป็นยังไง
เลือดของเธอจะมีรสชาติแบบไหน
แม้กระทั่งไขจากกระดูกหรือแม้แต่เอ็นทุกเส้น
ฉันก็อยากจะลิ้มลองมันทั้งหมด ทุกอย่างที่เป็นเธอ ฉันต้องการมัน...
จนกระทั่งวันที่ความอดทนสิ้นสุดลง
โอกาสมาถึง เธอตกอยู่ใต้สถานการณ์คับขัน
ภายใต้การตีราคาจากนักประมูลผู้กระหายหิว
มันยิ่งดีดสูงขึ้นไปอีกเมื่อเธอแสดงให้เห็นว่าตัวเธอเป็นสินค้าเกรดไหน
ครั้งนั้นที่แววตาของเธอถูกครอบครองโดยความหวาดกลัว
ถูกบีบคั้นต้อนให้จนมุมและแสดงพลังแห่งการปกป้องตัวเองออกมา
ระเบิดพลังเหมือนกับลูกนกที่เจาะเปลือกออกมาจากไข่
เธอแข็งแกร่งขึ้น แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะโผบิน
ทำได้แค่เดินเตาะแตะเช่นเดียวกับคากุเนะที่ใช้อย่างสะเปะสะปะ
แต่มันก็มากพอแล้วล่ะสำหรับการตัดสินใจ
ว่าเธอจะเป็นอาหารที่ควรค่าแก่การปกป้อง
รสชาติที่เติบโตขึ้นของเธอนั้น
ฉันต้องการลิ้มรสเพียงคนเดียว..
เธอรู้ตัวแล้วถึงตัวตนของฉัน
แววตาที่มองมาอย่างใสซื่อจึงเปลี่ยนเป็นหวาดระแวง
ระแวดระวังไม่ไว้วางใจ
อาหารคงจะไม่อร่อยถ้ามันปราศจากวิธีการ
ตัวเธอคือวัตถุดิบ ความระแวงคือเครื่องปรุง
และวิธีล่าคือการปรุงอาหาร
ฉันมีวัตถุดิบพิเศษเล็กๆน้อยๆเป็นเหยื่อล่อ
มีสถานที่เหมาะๆเป็นจานกระเบื้องชั้นดี
กับดนตรีจากผู้ขัดขวางทั้งสองคน
เธอจะกลายเป็นสุดยอดของอาหารในค่ำคืนนี้
แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่วางไว้
และคนที่ลิ้มรสเธอในคืนนี้ก็ไม่ใช่ฉัน...
พวกต้นอาโอกิริพาตัวเธอไป..
มันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆที่ไม่ได้พบกับเธอ
แต่พอเราพบกันอีกครั้งแววตาของเธอก็เปลี่ยนไปแล้ว
แววตาหวาดระแวงที่ยังมีความใสซื่อแฝงอยู่ได้หายไป
สายตาที่มองตรงมายังฉันนั้นเป็นสายตาของคนที่มั่นใจในตัวเอง
เชื่อมั่นในพลังอำนาจ ในความสามารถหากขณะเดียวกันก็กระหายและท้าทาย
เธอไม่ใช่ลูกนกที่ได้แต่รอแม่มาป้อนอาหารอีกต่อไป
แต่กลายเป็นพญาเหยี่ยวตัวยักษ์ที่มีจะงอยปากและกรงเล็บแข็งแกร่ง
พร้อมกับปีกแห่งคากุเนะที่สยายออกกว้าง
พร้อมที่จะโผบินเข้าสู่โลกโหดร้ายของผีดิบ
ไม่เกรงกลัวอะไรแม้แต่ฉันที่เธอเคยหวาดกลัวตัวสั่น
เมื่อยิ่งหลอมรวมเข้ากับความหอมหวานในฐานะอาหารของเธอแล้ว
ฉันแน่ใจว่าเธอคือสุดยอดกรูเมต์ที่เป็นหนึ่งไม่มีสองอีกแล้ว
ความสัมพันธ์ของพวกเราเปลี่ยนไปอีก
หลังจากที่ฉันเสนอตัวเป็น‘อาวุธ’ให้กับเธอ
ยินยอมให้เธอใช้งานแลกกับโอกาสในการใกล้ชิด
แต่ก็ใช่ว่าเธอจะมีช่องว่างให้โจมตีได้ง่ายๆ
ฉันก็ได้แต่อดทนต่อความอยากสะกดความกระหายที่มีต่อเธอเอาไว้
รอจนกว่าเธอเผลอแต่ใครจะไปนึกล่ะ
ว่าเธอจะเป็นฝ่ายเปิดโอกาสให้ฉันด้วยตัวเอง*(อ้างอิงจากปรารถนาลึก,ปรารถนาลับ)
มีหรือที่ฉันจะยอมพลาดโอกาส
แต่ก็มีบางอย่างที่แปลกไป พอได้โอกาสจริงๆฉันกลับค้นพบบางอย่าง
บางความรู้สึกที่กำเนิดขึ้นมาคร่อมทับความกระหายหิว
เป็นความรู้สึกที่มืดดำไม่แพ้กันทว่ารุนแรงและหาทางดับได้ยากกว่า..
และมันเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ฉันก้าวลงไปในหนทางใหม่ๆ
เป็นความลังเลที่น่าพิศวง ตื่นเต้นหากก็เย้ายวน
เรื่องน่าตื่นตาพวกนั้นเกิดขึ้นเมื่อฉันเลือกที่จะกลืนกินเธอในอีกรูปแบบหนึ่ง...
และถลำลึกลงไปในความหอมหวานของเธอเต็มตัว
แววตาของเธอเปลี่ยนไปอีก
ตอนที่เราอยู่ด้วยกันในช่วงเวลาที่ไม่มีใครเข้ามาถึง
ลูกแก้วสีนิลคู่นั้นจะแสดงความรู้สึกแท้จริงออกมา
วาววับเปล่งประกาย เรืองรองด้วยไฟแห่งความหฤหรรษ์
ในห้องนอนของเธออบอวลไปด้วยกลิ่นความปรารถนาของเรา
กึกก้องไปด้วยเสียงคำรามอันมีแหล่งที่มาแสนดุดัน
เราอาบหยดน้ำจากบ่อเกิดแห่งราคะ
ช่วงเวลาที่สมองพร่าพรายด้วยความสุขที่ไม่อาจควบคุม
หลายครั้งในเวลาที่ความสุขแผ่กระจายไปทั่วร่างของเธอและฉัน
เราจะกัดกินกันและกัน
ฉันฉีกผิวหนังของเธอ
เธอกัดและดื่มด่ำกับเลือดของฉัน
ฉันเคี้ยวและบดกลืนเนื้อหวาน
กลืนมันลงกระเพาะให้เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของฉัน
เธอดึงดูดเลือดด้วยปลายลิ้นจากเส้นเลือดโดยตรง
เลียมันทุกหยาดหยดจนหมดจดอย่างกระหายหิว
“หวานจังครับ ทสึกิยามะซัง”
เธอที่ไม่เคยล่ามนุษย์เอ่ยคำนั้นแล้วดูดดื่มกับเลือดของฉันต่อไป
ความเจ็บปวดผสมผสานอยู่ในความหวามกระเส่า
เป็นเรื่องน่ายินดีที่เลือดเนื้อของฉันจะทำให้เธอรื่นรมย์ได้
เป็นเวลาเดียวกับที่ฉันนำพาความรักอันวิปริตผิดเพี้ยนเข้าสู่กายเธอ
ซากแห่งความต้องการกระจัดกระจายอาบบนเตียงสีขาว
มีร่างของเรากอดก่ายคลอเคลียกันอยู่บนนั้น
บางครั้งความสุขทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังฝัน
บางเวลาเธอกระซิบกระซาบแล้วหัวเราะด้วยเสียงใสอยู่ข้างหู
ระหว่างที่เรากำลังรอให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง
เพื่อที่จะหรรษากับรสชาติของพวกเราอีกครั้ง
ก่อนหน้านั้นฉันเคยเป็นแค่ ‘นักชิม’ ที่แสวงหาสุดยอดรสชาติ
แต่เพียงวินาทีที่ฉันได้ลิ้มรสของเธอแล้ว
ฉันได้กลายเป็น ‘ทาส’ ที่หลงใหลแต่เพียงรสชาติของเธอโดยสมบูรณ์
แต่ความสุขมันมักจะอยู่กับเราสั้นเสมอ
ข่าวร้ายมาถึงฉันในวันที่เราเผชิญหน้ากับโดฟ
ความแข็งแกร่งของเธอเป็นที่เล่าลือในหมู่กูลอาจเป็นสิ่งดี
แต่มันก็เหมือนดาบสองคมเมื่อมันกลายเป็นสิ่งที่เรียกให้ซีซีจีพุ่งเป้ามาที่เธอ
ถ้าทั้งหมดที่ผ่านระหว่างเราคือความฝัน
ก็คงจะถึงเวลาที่ฉันต้องตื่นขึ้นมาเสียที
เพื่อที่จะรับรู้ว่าโลกความจริงมันโหดร้ายแค่ไหน..
เธอถูกซีซีจีกำจัดไปแล้ว...
ทุกทุกคนบอกกับฉันว่าอย่างนั้น
ไม่มีเธออีกแล้วไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม
กลิ่นของเธอ เสียงหัวเราะของเธอ
เจ้าของรสชาติเลือดเนื้อที่ฉันกลืนเอามาไว้ในร่างกาย..
เธอหายไปเหมือนกับไม่เคยมีอยู่จริง...
ในห้องนั้นที่พวกเราเคยใช้เวลาร่วมกัน
ยังหลงเหลือร่องรอย กลิ่นอายของเธอคละคลุ้งอยู่ในอากาศ
ฉันกลับมาที่นั่นในวันที่ตามหาเธอจนเหนื่อย
ห้องเดิมที่มีเธอเคยนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ จิบกาแฟหอมกรุ่น
เงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้
แต่ตอนนี้มันว่างเปล่า..
ฉันนั่งลงกับพื้น ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบหน้ากับความจริงที่ต้องยอมรับ..
ฉันสูญเสียเธอไปแล้ว...
มีคำคมของมนุษย์เคยว่าเอาไว้
เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง
มันก็แค่คำปลอบสวยหรูที่ไม่เคยจริง..
ตลอดสองปีมานี้ไม่มีสักครั้งที่ฉันจะลืมเธอ
ฉันไม่หิวไม่กระหาย เมื่อขาดเธอรสชาติก็ค่อยๆจางหายไปจากฉัน
ไม่ว่าผู้คนรวบตัวที่ห่วงใยฉันจะสรรหาวัตถุดิบดีเลิศแค่ไหนมาให้
มันก็ไม่อาจทำให้ฉันรับรู้รสชาติได้
ฉันต้องการแค่เธอ ถ้าไม่ใช่เธอแล้วก็ไม่มีค่าอะไร
แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อเธอไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว
เมื่อจิตใจพังลงร่างกายก็ค่อยๆพังทลายตาม..
ร่างกายของฉันผ่ายผอมแห้งเหี่ยวไม่ต่างอะไรจากต้นไม้ขาดน้ำ
บางครั้งก็ลุกขึ้นมาอาละวาดคลุ้มคลั่งเพราะสติที่แตกเป็นเสี่ยง
อีกไม่นานตัวฉันก็คงจะแตกสลาย
ก็ดีแล้ว..ไม่มีเธอแล้วฉันก็ไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ...
ที่สุดฉันก็รู้เธอน่ะไม่ใช่อาหาร...ไม่ได้เป็นแค่อาหาร..
แต่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของฉัน...
แต่แล้วต้นไม้ที่กำลังจะเหี่ยวเฉาก็ได้รับน้ำ
รูปภาพที่มีเธออยู่ในนั้น เธอยังมีชีวิตอยู่
ยังยิ้มยังหัวเราะอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้..
คานาเอะมอบมันให้กับฉัน น้ำใจจากเพื่อนมนุษย์ตัวจ้อย
จากหยดน้ำน้อยนิดที่หยดลงมาทำให้ฉันฟื้นคืนรวดเร็ว
ฉันดั้นด้นไปพบเธอหลังจากนั้น
แม้จะรู้แล้วก็ตามว่าเธอเป็น ‘ใคร’
ในตอนนี้
อยู่ในฐานะที่อันตรายแค่ไหน แต่ฉันก็ยังอยากจะพบ
ไม่สนด้วยซ้ำว่าจะมีผลกระทบอะไรย้อนกลับมา
อยากไปยืนยันด้วยตาตัวเองอีกครั้งว่าเธอยังมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ
แต่เมื่อได้พบกันแล้วฉันก็ได้รู้ถึงบางสิ่งที่สำคัญกว่ามาด้วย..
สำหรับเธอในตอนนี้นั้น ฉันไม่ใช่คนที่เธอรู้จักอีกต่อไปแล้ว..
ยัยกูลจากอันเทย์กุเดิม คิริชิม่าเตือนฉัน
ว่าฉันไม่ควรที่จะลากเธอกลับมาในโลกของพวกเรา
เธอได้อยู่ในที่ที่ ‘เหมาะ’ แล้วในเวลานี้
การดึงเธอกลับมาก็เท่ากับทำลายตัวเธอในตอนนี้
ยัยผู้หญิงบ้านั่นบอกว่าสิ่งที่ฉันจะทำเป็นความเห็นแก่ตัว
แล้วมันผิดอะไรที่ฉันจะเห็นแก่ตัว..
จะให้ฉันยอมรับได้ง่ายๆหรือเรื่องที่เธอน่ะลืมฉันไปจนหมด
ฉันไม่มีตัวตนในความทรงจำของเธออีกต่อไปแล้ว
ทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมันเป็นเพียงความทรงจำของฉันฝ่ายเดียว
ฉันไม่ยอมหรอก ไม่มีทางหรอก..
ฉันจะเอาเธอคืนกลับมาให้ได้!
ฉันได้พบกับเธออีกครั้ง
คิดถึงแต่เรื่องที่จะทำให้ความทรงจำเธอกลับมา
“คุณเป็นผีดิบสินะครับ?”
เธอถามฉันอย่างนั้น ประโยคที่ห่างเหิน แบ่งแยก..
ราวกับฉันไม่ใช่พวกเดียวกับเธอ เป็นสิ่งที่ต่างจากเธอ
เธอในตอนนี้ที่เป็น ‘เจ้าหน้าที่สืบสวนผีดิบ’
และรับไม่ได้ที่จะถูกเรียกว่าเป็น ‘ผีดิบ’
แม้จะแค่เคยเป็นก็ตาม..
‘เธอ’ที่ฉันถวิลหานั้นเป็นแค่เพียงความทรงจำที่เธอในตอนนี้ต้องการรับรู้
แต่ไม่ใช่ที่ๆเธอต้องการจะกลับไป...
บางสิ่งบางอย่างแตกสลายในใจฉัน..
เสียงของความแตกร้าวดังกึกก้องไปพร้อมๆกับวาจาบาดใจของเธอ
คำพูดที่เธอไม่รู้เลยว่ากรีดลึกลงไปในใจฉันมากแค่ไหน
ความสัมพันธ์ของพวกเรา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น
รอยกอด รอยจูบ รสชาติที่หลอนหลอกในความทรงจำของฉัน
หรือมันควรที่จะอยู่แค่ในเพียงความทรงจำของฉันต่อไป..
น่าเจ็บปวดจริงๆที่ฉันจดจำเธอได้ในทุกลมหายใจ
แต่เธอไม่มีฉันอยู่แม้ในเศษเสี้ยวของความทรงจำ
แววตาที่ได้เห็นในวันนี้ช่างคล้ายกับเธอที่ฉันเจอครั้งแรกในอันเทย์กุ..
เธอคงจะย้อนกลับไปเป็นคนเดิมคนนั้นแล้วซินะ..
เป็นเธอคนที่ไม่รู้จักฉันแม้แต่น้อย..
กลิ่นมนุษย์ของเธอเข้มข้นขึ้นอีก...
เธอเลือกแล้วซินะว่าจะกลับไปที่ ‘ฝั่งนั้น’
ฉันหันหลังเดินจากมาโดยที่ทิ้งความตั้งใจตอนแรกไปหมดสิ้น
ฉันกำลังรับผลจากความดื้อดึงของตัวเองอยู่
พวกโดฟจับหางเราได้ และทำการกวาดล้างพวกเรา..
ฉันถูกพาตัวออกมาในขณะที่ท่านพ่อเสียสละตัวเองเพื่อให้ฉันรอด
ทุกคนรอบตัวฉันถูกกำจัด ทั้งคนสำคัญและเหล่าพวกพ้อง
ทั้งหมดต้องมาจบลงเพราะความดื้อรั้นที่โง่เขลาของฉัน
เบื้องหลังของทางที่ขึ้นไปดาดฟ้ามันช่างว่างเปล่า
เสียงการต่อสู้กรีดร้องลอยมาตามสายลม..
ฉันกำลังจะไม่เหลืออะไรจริงๆแล้ว...
แต่ที่นั่น บนดาดฟ้าฐานทัพของเรา
เธอกำลังรอฉันอยู่...
การเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายของพวกเรา..
พวกเราเผชิญหน้ากันในฐานะศัตรู
ฉันไม่เคยคิดว่าเราจะก้าวมาจนถึงตรงนี้ได้
วันที่เธอกลายเป็นฝ่ายตรงข้าม
น่าตลกดีนะ..ฉันคนที่เคยได้ลิ้มรสเธอ
กลับต้องมายืนอยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นแค่คนแปลกหน้าต่อกัน
กลายเป็นภารกิจที่เธอต้องกำจัด..
แววตาของเธอที่มองฉันตอนนี้มันว่างเปล่า
ถึงจะทำใจแล้วแต่ฉันทนไม่ได้..ที่จะเห็นมัน
เธอลืมไปหมดแล้วเรื่องของพวกเรา ฉันเป็นเพียงซากอดีตสำหรับเธอเท่านั้น..
มันน่าขำไหมล่ะ..
ถ้าหากเธอตายไปตั้งแต่ตอนนั้นจริงๆล่ะก็..
มันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้...
ที่สุดฉันก็เข้าใจ คิริชิม่าพูดถูก
ถ้าหากหวังดีต่อเธอจริงๆก็ไม่ควรที่จะดึงเธอกลับมา
ถึงอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมาสงสารฉันหรอกนะ ไม่ต้องลังเลใจ
ในเมื่อเธอเลือกแล้วก็ทำในสิ่งที่ตัวเองเลือกให้เต็มที่
และหลังจากนี้หากรู้แล้วว่าฉันเป็นใครก็ได้โปรดอย่าเสียใจในสิ่งที่เธอเลือก
วันนึงที่เธอจดจำทุกสิ่งได้ขึ้นมา ถึงตอนนั้นก็อย่าร้องไห้
เพราะฉันไม่ได้เสียใจที่สุดท้ายมันจบลงแบบนี้
อาจจะมีอยู่บ้างที่ว่ามันช่างเหงาและเจ็บปวดเหลือเกิน..
แต่ว่าเธอไม่จำเป็นต้องมาเห็นใจฉันหรอก
เพราะฉันเองก็จะไม่ยอมแพ้เหมือนกัน
ฉันจะไม่ยอมให้โอกาสที่ท่านพ่อและทุกคนสร้างขึ้นสูญเปล่า
ฉันจะพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้
แต่ว่านะ..ถ้าหากวันนี้ฉันจะต้องตายจริงๆล่ะก็..
ฉันก็ยินดีที่จะได้ตายด้วยน้ำมือของเธอ....
หลังจากนี้ถ้าหากฉันจากไปแล้ว
ขอแค่สักเสี้ยวเวลาของเธอ ได้โปรดนึกถึงฉันบ้าง..
นะ..คาเนกิคุง
100% ------------------เจ้าค่ะ
แต่งไปน้ำตาไหลไป
ดราม่ามากเลยสงสารสุกี้มาม่าจับจิตเลย
ไฮเสะใจร้าย ฮรือออ
ถูกลืมแล้วยังจะมาฆ่ากันอีก
แงงงง
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ไอคาลิป ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ไอคาลิป
ความคิดเห็น